ห้องรับแขกถือเป็นหัวใจของบ้าน เป็นพื้นที่ที่ต้อนรับผู้มาเยือน เป็นศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัว และมักเป็นจุดที่เราใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง หรือพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน บรรยากาศของห้องรับแขกจึงสะท้อนถึงรสนิยมและความรู้สึกอบอุ่นของบ้านได้เป็นอย่างดี
ในการสร้างสรรค์บรรยากาศที่สมบูรณ์แบบนั้น พรมห้องรับแขก คือองค์ประกอบสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม พรมไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่งชิ้นหนึ่ง แต่มีบทบาทอย่างมากในการเปลี่ยนโฉมห้องให้ดูน่าอยู่ขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ จากพื้นห้องที่ดูธรรมดา พรมสามารถเติมเต็มมิติ ความอบอุ่น และกำหนดสไตล์ให้กับพื้นที่นี้ได้อย่างเหลือเชื่อ
ดังนั้น พรมห้องรับแขก จึงเป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ในการสร้างสรรค์พื้นที่ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ใด พรมก็พร้อมเติมเต็มให้ห้องรับแขกของคุณเป็นมุมโปรดที่ทุกคนอยากใช้เวลาร่วมกันมากยิ่งขึ้น
ทำไมจึงต้องใช้ พรม ตกแต่งห้องรับแขก?
1. กำหนดโซนและสร้างพื้นที่ให้ชัดเจน
ในห้องรับแขกที่มีลักษณะเปิดโล่งหรือเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ของบ้าน พรมมีบทบาทสำคัญในการช่วยแบ่งขอบเขตพื้นที่ใช้สอยได้อย่างชัดเจน เช่น การวางพรมใต้ชุดโซฟาจะช่วยกำหนดให้เป็น โซนนั่งพักผ่อนและสนทนา ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งของห้องอาจเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารหรือมุมทำงาน การจัดวางพรมอย่างถูกวิธีจะทำให้ห้องดูเป็นระเบียบ มีฟังก์ชันการใช้งานที่ชัดเจน และยังช่วยให้ภาพรวมของห้องดูสมดุลและสวยงามยิ่งขึ้น
2. เพิ่มความอบอุ่นและมอบสัมผัสสบายเท้า
ไม่มีอะไรจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายได้เท่ากับการได้สัมผัสพื้นผิวที่นุ่มนวล การเดินบน พรมห้องรับแขก ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเท้ากว่าพื้นแข็งอย่างกระเบื้องหรือไม้จริง โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็น พรมจะทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความเย็นจากพื้นดิน ทำให้บรรยากาศในห้องรับแขกดูอบอุ่นและเชิญชวนให้เข้ามาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมร่วมกัน
3. ช่วยลดเสียงรบกวนและดูดซับเสียงสะท้อน
หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในห้องขนาดใหญ่คือเสียงก้องหรือเสียงสะท้อนที่ทำให้การสนทนาหรือการฟังเพลงไม่ชัดเจน พรมมีคุณสมบัติในการดูดซับเสียงได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดเสียงก้อง ลดเสียงฝีเท้าที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินไปมา และยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกที่อาจเล็ดลอดเข้ามาในห้องได้ ทำให้ห้องรับแขกเป็นพื้นที่ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน การพูดคุย หรือการชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอรรถรส
4. ปกป้องพื้นผิวเดิมของบ้าน
พรมห้องรับแขก ช่วยปกป้องพื้นบ้านของคุณจากรอยขีดข่วน คราบสกปรก และความเสียหายต่างๆ ที่อาจเกิดจากการเลื่อนเฟอร์นิเจอร์ หรืออุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน เช่น น้ำหกหรือของตก พรมที่ปูทับจะช่วยให้พื้นบ้านของคุณดูดีและใช้งานได้นานขึ้น ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนพื้นใหม่บ่อยๆ
5. เสริมสไตล์และสะท้อนบุคลิกของเจ้าของบ้าน
พรมห้องรับแขก เหมือนพื้นที่ขนาดใหญ่ที่บอกสไตล์ของเจ้าของบ้านได้ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะชอบแต่งบ้านแบบไหน ทั้งมินิมอล โมเดิร์น คลาสสิก หรือโบฮีเมียน คุณก็เลือกพรมสีเรียบ พรมลายวินเทจ พรมสีสดใส หรือพรมที่มีลวดลายพิเศษ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ชอบ และบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้เลย

การเลือก พรมห้องรับแขก ที่พิถีพิถันและเหมาะสมกับพื้นที่ของคุณ จึงเป็นการลงทุนที่ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับบ้าน ทำให้ห้องรับแขกเป็นพื้นที่ที่คุณและคนในครอบครัวมีความสุขกับการใช้เวลาร่วมกัน และยังสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนอีกด้วย
พรมห้องรับแขก สร้างความประทับใจแรกแก่แขกผู้มาเยือนได้อย่างไร?
พรมห้องรับแขก ไม่ได้มีประโยชน์แค่เรื่องฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงามภายในบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างความรู้สึกและบรรยากาศอันน่าประทับใจแก่แขกผู้มาเยือนได้ตั้งแต่แรกก้าวเข้ามาในบ้านของคุณ
-
สร้างความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตร เมื่อแขกก้าวเข้ามาในห้องรับแขกที่มีพรมปูอยู่ พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและนุ่มนวลที่แตกต่างจากพื้นแข็ง พรมช่วยลดความกระด้างของห้อง สร้างบรรยากาศที่เชื้อเชิญและผ่อนคลาย ทำให้แขกรู้สึกสบายใจและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ราวกับว่าได้เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวที่จัดเตรียมไว้อย่างใส่ใจ
-
แสดงออกถึงรสนิยมและความใส่ใจในรายละเอียด พรมห้องรับแขก คือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่บอกสไตล์และรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ชัดเจน การเลือกพรมที่มีดีไซน์ สีสัน หรือลวดลายที่เข้ากับการตกแต่งห้อง จะแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่มีรสนิยมดีและใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ การจัดวางพรมที่ลงตัวช่วยให้ห้องรับแขกดูหรูหรา มีระดับ หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
-
เพิ่มความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย การที่แขกสามารถวางเท้าลงบนพรมที่นุ่มสบาย ไม่ว่าจะขณะนั่งพักผ่อนบนโซฟา หรือเดินไปมาในห้อง จะช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและลดความเมื่อยล้า พรมยังช่วยลดเสียงก้องและทำให้บรรยากาศเงียบสงบขึ้น ซึ่งเอื้อต่อการสนทนาและการทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้แขกรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและได้รับความสะดวกสบายตลอดเวลาที่อยู่ในห้องรับแขกของคุณ
-
สร้างจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว พรมที่มีลวดลายโดดเด่นหรือสีสันที่น่าสนใจ สามารถเป็น “จุดโฟกัส” ของห้องรับแขกได้ ทำให้แขกที่มาเยือนเกิดความสนใจและอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนา พรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวยังช่วยบอกเล่าเรื่องราวหรือสะท้อนความเป็นตัวคุณได้ ทำให้ห้องรับแขกไม่ใช่แค่พื้นที่ธรรมดา แต่เป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์และน่าจดจำ
ประเภทของ พรมห้องรับแขก ที่ได้รับความนิยม
การเลือกประเภทของ พรมห้องรับแขก ให้เหมาะสมกับห้องรับแขกของคุณ จะช่วยเสริมทั้งฟังก์ชันและความสวยงามได้อย่างลงตัว พรมปูพื้น แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะที่ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ดังนี้:
1. พรมขนสั้น (Low Pile Carpet)
- คุณสมบัติ: พรมปูพื้น ประเภทนี้มีเส้นใยที่สั้นและถักทอแน่น ทำให้มีพื้นผิวเรียบ ทำความสะอาดง่าย ไม่กักเก็บฝุ่นละอองมากนัก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ หรือบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็ก
- เหมาะสำหรับ: ห้องรับแขกที่มีการสัญจรไปมาบ่อยครั้ง เนื่องจากมีความทนทานต่อการเหยียบย่ำได้ดี หรือห้องที่ต้องการความเรียบง่าย ดูสะอาดตา และสะดวกต่อการดูแลรักษา
2. พรมขนยาว/ขนปุย (Shag/High Pile Carpet)
- คุณสมบัติ: พรมปูพื้น ประเภทนี้โดดเด่นด้วยเส้นใยที่ยาวและนุ่มฟู มอบสัมผัสที่อบอุ่นและสบายเท้าเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น (cozy) ให้กับพื้นที่อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับเสียงได้ดีเยี่ยม
- เหมาะสำหรับ: ห้องรับแขกที่ต้องการบรรยากาศแห่งการพักผ่อน เน้นความนุ่มสบาย และเป็นศูนย์รวมของสมาชิกในครอบครัวเพื่อการทำกิจกรรมร่วมกัน หรือห้องที่ต้องการเพิ่มความหรูหราและมีมิติ
3. พรมทอ (Woven Carpet)
- คุณสมบัติ: พรมทอ ผลิตด้วยกระบวนการถักทอเส้นใยอย่างประณีตและซับซ้อน ทำให้ได้พรมที่มีโครงสร้างแข็งแรง มีความทนทานสูงเป็นพิเศษ ลวดลายที่ได้มักจะมีความละเอียดงดงาม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่าแก่การลงทุน
- เหมาะสำหรับ: ห้องรับแขกที่ต้องการความหรูหราสง่างาม มีดีไซน์คลาสสิก หรือต้องการให้ พรมปูพื้น เป็นงานศิลปะชิ้นเอกที่โดดเด่นและสะท้อนรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของบ้าน
4. พรมใยสังเคราะห์ (Synthetic Carpet – เช่น Nylon, Polyester)
- คุณสมบัติ: พรมปูพื้น ที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ เช่น ไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์ มีความโดดเด่นเรื่องความทนทานสูง ทนต่อการสึกหรอ และมีคุณสมบัติในการทนต่อคราบสกปรกได้ดี สีสันไม่ซีดจางง่ายแม้ผ่านการใช้งานมานาน และมีระดับราคาที่หลากหลายให้เลือกสรร
- เหมาะสำหรับ: ห้องรับแขกที่มีการใช้งานหนัก มีโอกาสเกิดคราบสกปรกหรือการหกเลอะเทอะบ่อยครั้ง หรือผู้ที่ต้องการพรมที่ดูแลรักษาง่าย ประหยัดเวลา และยังคงความสวยงามได้ยาวนาน

การพิจารณาเลือกประเภท พรมห้องรับแขก ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและสไตล์การตกแต่งห้องรับแขกของคุณ จะช่วยให้คุณได้ พรมปูพื้น ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สไตล์ห้องรับแขกแต่ละสไตล์เหมาะกับโทนสีและลวดลาย พรมปูพื้น แบบไหน?
การเลือกพรมให้เข้ากับสไตล์ห้องรับแขกเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและสะท้อนบุคลิกของบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ ลองมาดูกันว่าสไตล์การตกแต่งห้องรับแขกแต่ละแบบ ควรจับคู่กับโทนสีและลวดลายพรมแบบไหนถึงจะลงตัวที่สุด:
1. สไตล์โมเดิร์น (Modern)
สไตล์โมเดิร์นเน้นความเรียบง่าย สะอาดตา และฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก เพื่อให้ห้องดูทันสมัยและไม่ซับซ้อน พรมจึงควรมีดีไซน์ที่ส่งเสริมความเรียบง่ายนี้
- โทนสี: เลือกใช้สีพื้นเรียบๆ อย่าง ขาว เทา ดำ หรือ เบจ รวมถึงสีเอิร์ธโทนที่ไม่ฉูดฉาด จะช่วยให้ห้องดูโปร่งสบาย สง่างาม และมีความเนี้ยบตามแบบฉบับโมเดิร์น
- ลวดลาย: เหมาะกับพรมที่มีลวดลายกราฟิกเรขาคณิตที่คมชัด ลายเส้นที่ดูสะอาดตา หรือพรมที่มีพื้นผิว (texture) ที่ดูเรียบง่ายแต่เพิ่มมิติให้กับห้องโดยไม่ดูรกตา ช่วยเสริมความทันสมัยและความมินิมอล
2. สไตล์คลาสสิก/วินเทจ (Classic/Vintage)
สไตล์นี้เน้นความหรูหรา สง่างาม และมีกลิ่นอายของอดีต เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดูมีเรื่องราวและรสนิยม การเลือกพรมจึงควรสะท้อนความงดงามแบบย้อนยุค
- โทนสี: ควรอยู่ในโทนที่ดูอบอุ่นและมีน้ำหนัก เช่น เขียวเข้ม น้ำเงินกรมท่า แดงเบอร์กันดี หรือโทนสีทองหม่น สีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความลึกซึ้ง ความหรูหรา และความรู้สึกคลาสสิกให้กับห้อง
- ลวดลาย: เหมาะกับพรมที่มีลวดลายแบบเปอร์เซียที่ซับซ้อนงดงาม ลายดอกไม้แบบวินเทจที่ดูอ่อนช้อย หรือลวดลายประดับที่ละเอียดอ่อนและประณีต ลวดลายเหล่านี้จะช่วยเสริมเสน่ห์แบบย้อนยุคและความวิจิตรบรรจงให้ห้องรับแขกของคุณ
3. สไตล์มินิมอล (Minimalist)
สไตล์มินิมอลคือความเรียบง่ายที่สุด เน้นความน้อยแต่มาก ความโปร่ง โล่งสบาย และการใช้งานที่จำเป็น เพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย พรมสำหรับสไตล์นี้จึงต้องเน้นความสะอาดตาและความเรียบง่าย
- โทนสี: เหมาะกับโทนสีอ่อนมาก เช่น ขาว ครีม เทาอ่อน หรือสีธรรมชาติที่ใกล้เคียงกับสีของไม้ สีเหล่านี้จะช่วยให้ห้องดูกว้างขวาง สะอาดตา และเสริมความรู้สึกเงียบสงบ
- ลวดลาย: ควรเป็นพรมสีพื้นไม่มีลวดลาย หรือมีเพียงเท็กซ์เจอร์จากการทอเล็กน้อยที่มองเห็นได้ไม่ชัด เพื่อคงความเรียบง่ายและไม่รบกวนสายตาให้เกินความจำเป็น ทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง และสบายตาที่สุด
4. สไตล์ธรรมชาติ/โบฮีเมียน (Natural/Bohemian)
สไตล์นี้เน้นวัสดุธรรมชาติ ความผ่อนคลาย และบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติและอิสระ เพื่อให้รู้สึกเหมือนอยู่ในพื้นที่ที่ไม่จำกัด พรมจึงควรสะท้อนความรู้สึกเหล่านี้
- โทนสี: เลือกโทนสีธรรมชาติ เช่น เบจ น้ำตาลอ่อน เขียวมอส ครีม หรือสีเอิร์ธโทนอื่นๆ สีเหล่านี้จะช่วยเสริมความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย และเป็นมิตรกับธรรมชาติ
- ลวดลาย: เหมาะกับพรมที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ปอ นุ่น หรือพรมที่มีลวดลายชนเผ่า ลายเรขาคณิตที่ไม่ซับซ้อน หรือพรมที่ตกแต่งด้วยพู่และชายครุย จะช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เป็นอิสระ และเชื่อมโยงกับธรรมชาติยิ่งขึ้น
5. สไตล์ร่วมสมัย (Contemporary)
สไตล์นี้ผสมผสานความโมเดิร์นเข้ากับความอบอุ่นและความสะดวกสบาย เน้นความทันสมัยแต่ไม่แข็งกระด้าง พรมในสไตล์นี้จึงมีความหลากหลายและยืดหยุ่น
- โทนสี: สามารถใช้โทนสีกลางที่ดูทันสมัย เช่น เทา ครีม เบจ และอาจมีสีสันสดใสบางจุดเพื่อสร้างจุดเด่นที่ไม่มากเกินไป พรมสามารถเป็นจุดเติมสีสันที่ลงตัว
- ลวดลาย: เหมาะกับลวดลาย Abstract ที่ไม่ซับซ้อนเกินไป ลายเรขาคณิตที่ไม่แข็งกร้าว หรือลายเส้นที่ดูมีมิติ ลวดลายเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและพลวัตให้กับห้องโดยยังคงความทันสมัยและความอบอุ่นไปพร้อมกัน

การเลือก พรมห้องรับแขก ที่พิถีพิถันจะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับบ้านของคุณ ทำให้ห้องรับแขกเป็นพื้นที่ที่คุณและคนในครอบครัวมีความสุขกับการใช้เวลาร่วมกัน และยังสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนอีกด้วย
เลือก พรมห้องรับแขก อย่างไรให้ลงตัว?
การเลือก พรมห้องรับแขก ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยกระดับความสวยงาม ฟังก์ชันการใช้งาน และบรรยากาศโดยรวมของพื้นที่ การพิจารณาปัจจัยหลักๆ อย่างพิถีพิถันจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ:
1. ขนาดของพรม
การเลือกขนาดพรมที่พอดีกับพื้นที่เป็นสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง เพื่อให้ห้องดูสมดุลและเป็นสัดส่วน พรมควรมีขนาดใหญ่พอที่จะวางขาหน้าของโซฟาหลักหรือเฟอร์นิเจอร์หลักอื่นๆ เช่น เก้าอี้เดี่ยว หรือโต๊ะกาแฟ ไว้บนพรมได้ การวางพรมที่เล็กเกินไปอาจทำให้ห้องดูขาดความเชื่อมโยงและไม่สมบูรณ์ ในขณะที่พรมที่ใหญ่พอดีจะช่วยกำหนดขอบเขตของพื้นที่ได้อย่างชัดเจน และทำให้ห้องรับแขกดูกว้างขวางยิ่งขึ้น
2. วัสดุของพรม
วัสดุของพรมส่งผลโดยตรงต่อสัมผัส ความทนทาน และวิธีการดูแลรักษา การเลือกวัสดุควรพิจารณาจากไลฟ์สไตล์และการใช้งานของห้องรับแขก:
- พรมขนสัตว์: มอบสัมผัสที่หรูหรา นุ่มนวล และทนทานเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความพรีเมียมและความคงทน
- พรมใยสังเคราะห์ (เช่น ไนลอน โพลีเอสเตอร์): มีความทนทานสูง ทนต่อคราบสกปรกและสีไม่ซีดจางง่าย ดูแลง่าย เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก สัตว์เลี้ยง หรือห้องรับแขกที่มีการใช้งานบ่อยครั้ง
- พรมฝ้าย: ให้สัมผัสที่สบาย ระบายอากาศได้ดี และมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพรมที่ดูเป็นธรรมชาติและดูแลไม่ยาก
3. สีและลวดลายของพรม
การเลือกสีและลวดลายของพรมควรให้กลมกลืนกับโทนสีโดยรวมของห้อง เฟอร์นิเจอร์ และสไตล์การตกแต่งที่คุณต้องการ พรมสามารถทำหน้าที่เป็นจุดเด่นที่สะดุดตาของห้อง ด้วยสีสันสดใสหรือลวดลายที่โดดเด่น หรืออาจเป็นส่วนเสริมที่กลมกลืนกับองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การเลือกสีและลวดลายที่เหมาะสมจะช่วยยกระดับสุนทรียภาพของห้องรับแขกได้อย่างชัดเจน

การเลือก พรมห้องรับแขก ที่พิถีพิถันจะช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับบ้านของคุณ ทำให้ห้องรับแขกเป็นพื้นที่ที่คุณและคนในครอบครัวมีความสุขกับการใช้เวลาร่วมกัน และยังสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ พรมห้องรับแขก
เพื่อช่วยให้คุณเลือกและดูแลได้อย่างมั่นใจ
Q: พรมห้องรับแขก มีผลต่อการตกแต่งห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นหรือไม่?
A: มีผลอย่างมาก พรมห้องรับแขกสามารถเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเติมเต็มความว่างเปล่าและสร้างจุดสนใจให้กับห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นได้ พรมที่มีลวดลายหรือสีสันที่โดดเด่นจะช่วยให้ห้องดูมีชีวิตชีวาและไม่รู้สึกโล่งจนเกินไป.
Q: ควรวาง พรมห้องรับแขก ตำแหน่งใดจึงจะเหมาะสมที่สุด?
A: ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดคือการวางพรมให้อยู่ใต้ชุดโซฟา โดยให้ขาหน้าของโซฟาวางอยู่บนพรม หรือหากเป็นห้องขนาดใหญ่ อาจวางพรมให้เฟอร์นิเจอร์หลักทั้งหมดอยู่บนพรมได้ เพื่อช่วยกำหนดขอบเขตของพื้นที่และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเฟอร์นิเจอร์
Q: การเลือก พรมห้องรับแขก สีเข้มหรือสีอ่อนมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร?
A: พรมสีเข้มช่วยซ่อนคราบสกปรกได้ดีกว่าและให้ความรู้สึกอบอุ่น หรูหรา แต่ก็อาจทำให้ห้องดูเล็กหรือทึบลงได้ ส่วนพรมสีอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างขวาง สว่าง และสะอาดตา แต่ก็อาจเห็นคราบสกปรกได้ง่ายกว่าและต้องการการดูแลที่บ่อยครั้งกว่า
Q: นอกจากความสวยงามและฟังก์ชันแล้ว พรมห้องรับแขก มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยอย่างไร?
A: พรมห้องรับแขกสามารถสร้างความรู้สึกสบายใจ ผ่อนคลาย และปลอดภัย การสัมผัสที่นุ่มนวลและบรรยากาศที่อบอุ่นที่พรมสร้างขึ้น สามารถช่วยลดความเครียดและสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายกายและสบายใจเมื่ออยู่ในพื้นที่นั้นๆ
Q: พรมห้องรับแขก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในบ้านได้อย่างไร?
A: พรมห้องรับแขกช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยการลดความเสี่ยงในการลื่นล้ม โดยเฉพาะบนพื้นผิวที่เรียบหรือมันวาว นอกจากนี้ยังช่วยลดแรงกระแทกหากเกิดการหกล้ม ทำให้ลดโอกาสการบาดเจ็บได้ โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ
พรมห้องรับแขก ช่วยจัดโซน เพิ่มความอบอุ่น และเติมเสน่ห์ให้บ้านคุณได้ง่ายกว่าที่คิด

ดีดีไซน์ ผู้เชี่ยวชาญงานปูพรม
บริการผลิตและติดตั้ง"พรมปูพื้น"
ด้วยทีมงานมืออาชีพ